A day in the life of a Project Manager – Project Manager วันๆ ทำอะไร?

Twitter
LinkedIn
Facebook

เราอาจเคยถูกทำให้สับสนอยู่บ่อยๆ ระหว่าง Product Manager กับ Project Manager ว่าต่างกันอย่างไร ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้ง 2 ตำแหน่ง ต่างมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งหากอ้างอิงจากนิยามทั่วไป ความรับผิดชอบและเป้าหมายหลักของทั้งสองตำแหน่งนั้นแตกต่างกัน โดย

  • Product Manager มุ่งเน้นไปที่ “อะไร” (What) ตัวอย่างเช่น กำหนดกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และเป้าหมายของผลิตภัณฑ์, เข้าใจความต้องการของลูกค้า, กำหนดลำดับความสำคัญของ backlog
  • Project Manager มุ่งเน้นไปที่ “อย่างไร” (How) ตัวอย่างเช่น รับผิดชอบในการวางแผน ดำเนินการ และควบคุมโครงการ, กำหนดขอบเขตงาน งบประมาณ และกำหนดเวลาของโครงการ และดูแลให้โครงการเสร็จสิ้นตามแผน

ในวันนี้ PM Corner เลยขอชวนทุกคนมาคุยกันกับเติร์ก Project Manager จาก PROCESSING CENTER CO.,LTD ว่าใน 1 วัน Project Manager คนนึงทำอะไรบ้าง? ต่างหรือไม่ต่างกับ Product Manager ยังไง? ไปดูกันเลย!

เกริ่นนำ

เคยสงสัยมั้ยครับว่าอาชีพ Project Manager วันๆเค้าทำอะไรกันบ้าง?

วันนี้ผมจะลองแชร์ Daily Routine ของผมเองว่าใน 1 วันของผมนั้นมีภารกิจอะไร ไว้พอเป็นไอเดียสำหรับผู้ที่สนใจในสายงานนี้

ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า Routine ของผมอาจจะไม่เหมือนกับ PM ท่านอื่นๆ ผมเชื่อว่าแต่ละบริษัทบทบาทและหน้าที่ของ Project Manager, Product Manager, Product Owner จะคาบเกี่ยวกันในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งต้องดูบริบทและภาพรวมของแต่ละที่ด้วย ซึ่งตัวผมเองตอนนี้ทำงานอยู่ในตำแหน่ง Project Manager ที่บริษัท PCC มีประสบการณ์ประมาณ 3 ปี (ที่ทำงานก่อนหน้านี้เริ่มจากการเป็น Dev 4 ปีและขยับเป็น Product Owner อีก2 ปี)

โปรเจกต์ที่ได้รับผิดชอบตอนนี้จะเป็น Platform สำหรับนักท่องเที่ยวที่มี Target ในการเป็นตัวกลางระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติกับผู้ประกอบการในไทยมีขนาดทีมที่ดูอยู่ประมาณ 15 คนแบ่งเป็น Squad ย่อยๆได้ประมาณ 3 Squad

โดยใน 1 วันทำงาน ผมอาจจะแบ่งเป็น 2 ส่วนแล้วกันครับคือ งานที่ต้องทำเป็นประจำทุก 1–2 สัปดาห์ กับงานไม่ประจำที่ต้องทำเป็นครั้งๆ ไปอาจจะปีละ 1-2 ครั้ง

งานที่ทำเป็นประจำ

#1 – Scrum Ceremonies

ตรงส่วนนี้ต้องมีทำทุกวันขึ้นอยู่กับว่าจะตรงวันไหน หลักๆ จะรับบทเป็น Scrum Master ของทีม แรงที่มาลงพาร์ทนี้คิดว่าน่าจะประมาณ 20–25% ของแรงทั้งหมดที่ได้ใช้ในแต่ละสัปดาห์โดยถ้าให้แบ่ง Task ย่อยๆ จะมีดังนี้

  • Daily Meeting — ความถี่ทุกวันยกเว้นวันที่มี Planning — ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ที่นานหน่อยเพราะว่าพอเป็น 3 Squad กว่าจะอัพเดทงานกันครบก็กินเวลาพอสมควร
  • Grooming — ความถี่ทุก 2 สัปดาห์ — ใช้เวลาครั้งละ ไม่เกิน 45 นาที ตรงส่วนนี้จะเป็นการคุยกับ Tech lead ของแต่ละ Squad เพื่อ Set Goal ของ Sprint ถัดไป โดย Tech lead จะไปคุยกับทีมเพื่อประเมินแต้ม และนำกลับมาคุยกันในวัน Planning อีกที
  • Planning — ความถี่ทุก 2 สัปดาห์ — ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อดูว่า Goal ใหญ่ที่ให้ไปใน Grooming พอแตกเป็น Task ย่อยๆแล้ว Man hour ที่ใช้สามารถจบได้จริงหรือไม่ เข้าใจ Definition of Done ของแต่ละ Task ย่อยๆ
  • Review — ความถี่ทุก 2 สัปดาห์ — ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เป็นการประชุมปิดจบรอบ Sprint โดยจะสรุป Task ที่ได้มอบหมายให้กับทีมแต่ละคนว่ามี Task ไหนปิดจบได้บ้าง และจะจัดการ Task ที่ไม่สามารถปิดจบใน Sprint นี้ได้อย่างไร
  • Retrospective — ความถี่ทุก 2 สัปดาห์ — ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เป็นการรับฟีดแบคจากทีมว่าในรอบสองอาทิตย์ที่ผ่านมามีสิ่งไหนดี สิ่งไหนควรปรับปรุง เพื่อหาวิธีแก้ไขให้การทำงานมีประสิทธิภาพและมีความสุขมากขึ้น

#2 – Weekly Meeting with Partner

รายละเอียดของการประชุมจะเปลี่ยนไปตาม Phase ที่กำลังพัฒนาโดยแต่ละการประชุมจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม. หรือในบางครั้งอาจจะแตกต่างกันไป ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีทีมย่อยแค่ 3 ทีม แต่บางครั้งเราก็อาจจะได้คุยกับพาร์ทเนอร์มากกว่านั้นในช่วงเวลาหนึ่งๆ เนื่องจากจะมีช่วงเวลาที่ทับซ้อนกันบ้างอาจจะมีได้ 5–6 พาร์ทเนอร์ต่อสัปดาห์เลย เรียกว่าน่าจะใช้แรงส่วนใหญ่หมดไปกับสิ่งนี้

#3 – Weekly Update with Business Team

ความถี่ทุก 2 สัปดาห์ — ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเป็นการเข้าไปประชุมภาพรวมกับทางทีมอื่นๆเพื่อรายงานความคืบหน้าและSync ภาพรวมให้ตรงกันทั้งทีม IT และ ทีม Business

เครดิตภาพจาก pm-partners.com.au/

งานที่ทำไม่ประจำ

#1 – วางแผน Budget ประจำปี

เป็นแผนงาน Budget ของปีถัดๆไปว่าเราจะต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไล่ไปตั้งแต่ค่าใช้จ่ายของ Server, ค่าใช้จ่ายของ Service ต่างๆไม่ว่าจะเป็น GIT, Google Suite รวมไปถึงค่าต่อ Cert โดเมน ค่าทดสอบความปลอดภัยของระบบประจำปี

#2 – วางแผน Milestone/Timeline ประจำปี

สิ่งนี้ต้องทำและต้องชัดพอเหมือนกัน ก่อนจะขึ้นปีใหม่จริงๆเดือน 10–11ก็ควรจะได้แผนสำหรับปีหน้าที่นิ่งระดับนึงแล้วเหมือนกันว่าเราปีหน้าเราจะมีฟีเจอร์อะไรบ้างโดย Scope และรายละเอียดอาจจะยังไม่ต้องลงรายละเอียดถึง100% ถ้าได้ซัก 70%ก็สามารถเอามาลงตารางคร่าวๆได้แล้ว ทั้งนี้ต้องคุยกับทาง Business ด้วยว่าถ้าเรา Fix คน และ Fix Release Date แล้วตัว Scope จะต้องยืดหยุ่นพอให้ปรับได้

#3 – ทำเรื่องจัดซื้อต่างๆให้กับทีม

ด้วยความที่ทีมเองมีขนาดไม่ใหญ่ดังนั้นหากทีมมีความต้องการอยากซื้ออุปกรณ์ต่างๆสำหรับใช้ในการพัฒนาเรื่องนี้จึงตกมาที่ PM ให้ช่วยจัดหาจัดซื้อด้วยโดยอิงจาก Budget ที่ประเมินไว้ในแต่ละปีส่วนของที่ซื้อก็อาจจะมีงานเล็กน้อยตั้งแต่ Software license, มือถือสำหรับใช้ทดสอบในโครงการ หรืออาจไปถึงการติดต่อจ้าง Outsource สำหรับงานบางอย่าง ตรงส่วนนี้จะมีไม่มาไม่บ่อยเท่าไหร่ และความยุ่งยากไม่ได้ซับซ้อนเท่ากับการจัดซื้อของโครงการรัฐ

#4 – Monitoring Dashboard, Cost and Incident

งาน Monitoring ถือเป็นหนึ่งใน Process Group ที่ PM จะต้องทำในระหว่างการบริหารโครงการ โดยปกติผมจะมีการเข้าไปตรวจสอบ Dashboard ทุกสัปดาห์ว่าทุกอย่างยังปกติดีหรือไม่ ส่วนการ Monitor Cloud ที่ใช้งานจะมีการทำ Alert Monitoring เข้าอีเมลเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าได้รับอีเมลในการแจ้งเตือนก็จะมีการแจ้งทีมให้ช่วยเข้าไปดูรวมทั้งวางแผนรับมือกัน

สุดท้ายนี้

จากที่ได้เล่ามาข้างต้นจะเห็นได้ว่างานของ Project Manager (PM) นั้นมีความหลากหลายและท้าทาย ต้องใช้ทั้งทักษะด้านการบริหาร การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม โดย PM จะต้องสามารถประสานงานกับบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้โครงการสำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย

และจริงๆ แล้วยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆหลายๆ อย่างที่อาจจะไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ หวังว่าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะได้มาแบ่งปันประสบการณ์กันอีกนะครับ 🙂


หากคุณชอบคอนเทนท์นี้ อย่าลืมกดไลก์ กดแบ่งปันให้เพื่อนๆ หรือคอมเมนต์กับพวกเราได้นะคะ และสามารถติดตาม content update ใหม่ๆ จาก PM Corner ได้จาก Facebook Page: PM Corner Thailand หรือทาง PM Corner Library ได้เลย!

Twitter
LinkedIn
Facebook
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
SUBSCRIBE FOR UPDATE

Join our community and start growing together