Product Manager คือใคร? เหมือนหรือต่างจาก Project Manager และ Product Owner อย่างไร?

Twitter
LinkedIn
Facebook
product-manager-product-owner




ในตอนนี้ โลกของเราได้เข้าสู่ Digital Era มานานกว่า 40 ปีแล้ว ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตกันได้อย่างแพร่หลาย ทำให้ธุรกิจดิจิทัลต่าง ๆ ในท้องตลาดเองก็เติบโตขึ้นมาก อีกทั้งหลายบริการหรือสินค้าที่พวกเราคุ้นเคยกันก็ได้ผันมาอยู่ในรูปแบบออนไลน์

จากเดิมที่บางอย่างเราจะพบเจอได้ก็ต่อเมื่อตอนออกจากบ้านเท่านั้น กลายมาเป็นทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ผ่านแค่ปลายนิ้ว ไม่ว่าจะเป็น Service, Content ตลอดจน Product ที่ขยับมาอยู่ในรูปแบบของดิจิทัลที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ใช้ในยุคนี้

และเนื่องจากตลาดด้านดิจิทัลขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว มีธุรกิจจำนวนมากที่เติบโตและเข้าสู่ตลาดนี้ ทำให้การดูแล พัฒนา และปรับปรุงสินค้าในโลกดิจิทัลกลายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้

ดังนั้นตำแหน่ง “ผู้จัดการผลิตภัณฑ์” หรือ “Product Manager” จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการออกแบบ บริหาร และพัฒนาสินค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถส่งมอบคุณค่าต่อผู้ใช้ ณ ขณะนั้นให้มากที่สุด และแข่งขันได้ในตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ










จริง ๆ แล้ว Product Manager คือใครกันแน่นะ?

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับตำแหน่งในตลาดงานในวงการดิจิทัล อย่าง Developer, UX Designer, QA Engineer หรือ ตำแหน่งอื่นในวงการของ Software Engineering มาบ้าง ซึ่งทุกตำแหน่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Digital Product หรือ Digital Services ออกมาสู่ท้องตลาด

แต่ก่อนที่ Product จะถูกพัฒนาเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการพัฒนา และในเเง่ของธุรกิจได้อย่างลงตัวนั้น คนกลุ่มนี้จะสามารถทำงานประสานกันหรือสื่อสารกันจนสามารถสร้าง Product ออกมาสำเร็จได้อย่างไร?

แน่นอนว่า ก็ต้องมีคนกลางคอยดูแล บริหาร และประสานงานคนในทีมเพื่อให้ Product ชิ้นนั้น ๆ ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ในทุกแง่มุม

ซึ่งคนที่ทำหน้าที่ในส่วนนั้นก็คือ Product Manager นั่นเอง

Product Manager ไม่ได้มีเพียงแค่หน้าที่คอยประสานงานทีมต่าง ๆ ที่พัฒนา Product เท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับ Product ในแง่ของ Business ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่า Product ตัวนั้นสามารถแก้ปัญหาอะไรให้ผู้ใช้ได้ จนพวกเขายินยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เราพัฒนา (Desirability) รวมถึง Product ตัวนั้นสามารถพัฒนาขึ้นได้จริงไหม (Feasibility) และ Product นั้นตรงกับ Goal บริษัทหรือไม่ (Viability)

เครดิตภาพจาก uxdesign.cc




ดังนั้น หากพูดถึงหน้าที่ของ Product Manager จะสามารถอธิบายคร่าวๆ ได้ดังนี้

  • มองหา Pain Point ของลูกค้าหรือผู้ใช้งานว่าพวกเขากำลังประสบปัญหาอะไรอยู่หรือไม่ และปัญหาที่เขากำลังเผชิญนั้นอยู่ในรูปแบบใด

  • รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งมาประกอบการวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา

  • กำหนด Core Value ที่จะส่งมอบให้แก่ผู้ใช้จนไปถึงการศึกษาคู่แข่งหรือสินค้าทดแทนที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัว Product ที่เราค้นคว้าไว้นั้นคุ้มค่าที่จะถูกสร้างขึ้นมา และมีศักยภาพพอจะแข่งกับตลาดที่เราเลือกจะเข้าไป

แน่นอนว่า Product Manager มีบทบาทสำคัญในการควบคุมและดูแลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ แต่บางคนก็อาจคุ้นเคยกับคำที่คล้ายคลึงกันกับ Product Manager อย่าง Product Owner และ Project Manager อยู่ ซึ่งทั้งสามตำแหน่งต่างก็มีบทบาทที่สำคัญและโดดเด่นในสายงานนี้










Product Manager ต่างจาก Product Owner และ Project Manager ยังไง

Product Manager vs Product Owner

ก่อนอื่น เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าใน Software Development Life Cycle (SDLC) จะมีส่วนที่เรียกว่า Discovery กับส่วน Delivery อยู่

Discovery (การค้นพบ)

เป็นส่วนที่จะเน้นการหา Idea หรือการหาคำตอบให้กับสิ่งที่ทีมจะสร้าง ซึ่งอาจเริ่มตั้งแต่การคิด Strategic Vision หรือการตั้งเป้าหมายก่อนว่าเราจะทำอะไร เพื่อใคร ร่วมกับการหา Pain Point จากลูกค้า จากนั้นก็เขียนออกมาเป็น Idea แล้วคัดให้เหลือเฉพาะน้ำดีที่จะนำมาเขียนต่อเป็น Dev Backlog ก่อนที่จะถูกส่งไปพัฒนาต่อกับทีม

Delivery (การส่งมอบ)

เป็นกระบวนการที่ทีมพัฒนา Product ของจริงขึ้นมาจาก Dev Backlog ที่ได้รับ เมื่อ Product เสร็จสมบูรณ์และผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ก็จะถูกส่งมอบ Product ที่มีคุณภาพพร้อมกับ Value ที่เราตั้งใจมอบให้แก่ลูกค้า (ซึ่งหมายถึง เราสามารถลดหรือแก้ Pain ของลูกค้าได้จาก Product ที่เราพัฒนาขึ้น)

ซึ่งบางคนอาจจะสงสัยว่า ใน Software Engineering มีทั้งตำแหน่ง Product Owner และ Product Manager เลย ชื่อก็คล้ายกันอีก หน้าที่ของทั้งสองตำแหน่งนี้ต่างกันอย่างไรกันแน่?

คำตอบก็คือ ส่วนมาก Product Manager (PM) จะโฟกัสที่เป้าหมายของผลิตภัณฑ์ มองหา Pain Point ของลูกค้า สำรวจตลาด และประเมินว่า Idea ที่มีอยู่นั้นคุ้มค่าที่จะสร้างขึ้นและตอบโจทย์ลูกค้าจริง ๆ หรือไม่

ในขณะที่ Product Owner (PO) เป็นชื่อตำแหน่งหนึ่งใน Agile team และโฟกัสที่การส่งมอบผลิตภัณฑ์​ ทำหน้าที่แปลง Backlog ออกมาเป็น User Story ที่เล็กพอให้ทางทีมพัฒนาสามารถแบ่งงานกันทำได้ตามกรอบเวลาที่กำหนด และดูแลการพัฒนา Product รวมถึงตัวกระบวนการสร้าง Product ของทีมไปจนจบ

Note: แต่ในความเป็นจริงแล้ว หน้าที่ของ Product Manager และ Product Owner อาจแปรผันตามขอบเขตที่แต่ละบริษัทจะกำหนด ซึ่งอาจทำให้ทับซ้อนกับหน้าที่ของตำแหน่งอื่นด้วยก็เป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งแนะนำให้ตรวจสอบ Job Description อีกครั้งตอนสมัครงาน

Product Manager vs Project Manager

สำหรับสองตำแหน่งนี้ต่างกันที่ Product Manager จะบริหาร Product ส่วน Project Manager จะบริหาร Project

  • การบริหาร Product (Product Management) นั้นจะโฟกัสที่ตลาดและการตอบสนองต่อผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง อาจมีการสร้างใหม่ ตัดออก ปรับปรุง หรือต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมเพิ่มเพื่อสร้าง value ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า

  • การบริหาร Project (Project Management) จะถูกกำหนดด้วย 3 สิ่งหลักคือ เวลา งบประมาณ และคุณภาพ (Cost, Time and Quality) ในความหมายก็คือ โครงการหรือ Project นั้น ๆ จะมีเวลาทำที่จำกัด โดยที่ Project Manager จะต้องสามารถบริหารทรัพยากรให้คุ้มค่า เพื่อให้เกิดงานที่มีคุณภาพภายในเวลาที่กำหนดได้นั่นเอง









อยากเป็น Product Manager ควรมีทักษะอะไรบ้าง?

อย่างที่ได้เล่าไป Product Manager มีหน้าที่วางแผนและวิเคราะห์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ให้คุ้มค่า ไม่ใช่เพียงแค่การประสานงานระหว่างทีมพัฒนาและผู้ใช้ ดังนั้นแล้วเลยสรุปออกมาคร่าว ๆ ได้ว่า Product Manager ควรมีทักษะดังนี้

  1. เข้าใจธุรกิจและกลไกของธุรกิจที่ทำงานอยู่ ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มีอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง หากตัดสินใจไปจะทำให้เกิดผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง รวมถึงตลาดและคู่แข่งด้วย
  2. ข้าใจลูกค้าหรือผู้ใช้งานอย่างถ่องแท้ เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด และสร้างความพึงพอใจได้
  3. วิเคราะห์ข้อมูลเป็น ข้อมูลคือสิ่งสำคัญที่สามารถนำมาใช้พัฒนา Product หรือคาดการณ์เรื่องต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะการสกัดข้อมูลจาก User เพื่อตามหา Insight
  4. เข้าใจความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้อง สามารถสื่อสารให้คนเหล่านั้นเข้าใจ เห็นเป้าหมายร่วมกันและเกิดแรงในการขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนา Product ให้สำเร็จ
  5. มีความรู้และเข้าใจในเทคโนโลยี ข้อจำกัดต่าง ๆ อะไรที่ทำได้ อะไรที่ทำไม่ได้ เพื่อให้สามารถอธิบายหรือตัดสินใจบางอย่างกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและกับทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  6. บริหารและสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับทีมได้ เนื่องจาก Product Manager จะต้องสื่อสารกับคนหลายฝ่าย (เช่น Designer, Developer, QA) จึงต้องเข้าใจคน สามารถทำให้คนต่างทีมเห็นเป้าหมายเดียวกันเพื่อขับเคลื่อน Product ออกมาให้สำเร็จไปด้วยกัน









สรุป

ในยุคดิจิตอลที่ธุรกิจและผู้ใช้งานมีความสามารถในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากขึ้น บทบาทของ Product Manager (PM) จึงกลายส่วนสำคัญในการพัฒนาสินค้าดิจิทัล

หน้าที่ของ Product Manager ไม่เพียงแค่คอยประสานงานระหว่างทีมพัฒนาและผู้ใช้ แต่ยังต้องมีความเข้าใจธุรกิจ วางแผน วิเคราะห์ข้อมูล และมีทักษะในการสื่อสารกับทีม

นอกจากนี้ Product Manager ยังต้องหาคำตอบว่าสินค้าที่พัฒนานั้นมีความคุ้มค่าต่อผู้ใช้และธุรกิจหรือไม่ โดยการมองหา Pain Point ของผู้ใช้ วิเคราะห์ข้อมูล และกำหนดค่า Core Value ที่จะส่งมอบให้แก่ลูกค้า

ในส่วนของทักษะ Product Manager ต้องมีทักษะทางธุรกิจม, มีความสามารถในการเข้าใจผู้ใช้งาน, สามารถวิเคราะห์ข้อมูล, เข้าใจในเทคโนโลยี, เข้าใจวิธีบริหาร Stakeholder และการนำทีมพัฒนาขับเคลื่อน product ให้สำเร็จไปด้วยกัน

ด้วยบทบาทและทักษะที่มีความหลากหลายของ Product Manager จะสามารถนำทีมไปสู่การพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้และธุรกิจได้อย่างลงตัวนั่นเอง










เพิ่มเติมจากผู้เขียน 😀

การเตรียมตัวของนักศึกษาตามแบบฉบับของถิงถิง

สำหรับใครที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ และมีความสนใจในสายงานนี้ก็สามารถเริ่มต้นได้จากการศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวข้องและลองลงคอร์สเรียนได้นะคะ อย่างถิงถิงเองก็เรียนคอร์ส Intro to Product Management จาก Skooldio ซึ่งคอร์สนี้เป็นการแนะนำตำแหน่งงานและความรู้พื้นฐานในการทำงานเป็น Product Manager พร้อมมี Case Study ให้

หรือหากใครมีโอกาสก็อยากให้ลองสมัครไปฝึกงานดูได้เช่นกัน เลือกงานที่ชอบ บริษัทที่ใช่แล้วยื่น resume ดูเลย อย่างถิงถิงเองก็ฝึกงานตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว (บางบริษัทอาจจะ require ปี 3 ขึ้นไป แต่ถ้าเรามีประสบการณ์นอกห้องเรียนพอประมาณ และมีความตั้งใจ พี่ ๆ ที่บริษัทก็อาจจะพิจารณาเป็นพิเศษก็ได้) ได้ลองฝึกงานทั้งแบบออนไลน์และแบบ Hybrid หากได้ทำที่บริษัทเราก็สามารถถามรุ่นพี่หรือสังเกตดูได้ว่าในการทำงานจริงมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เจอปัญหาและมีวิธีแก้อย่างไร รวมถึงได้ฝึกเรื่องของการสื่อสารและการรับมือกับความกดดันด้วย

ส่วนตัวของถิงถิงเองได้รู้จักสายงาน Project Manager จากการลองทำกิจกรรมนอกเหนือจากการเรียน อย่างเช่น

  • ชมรม Mahidol Startup Club เคยได้ลองจัดกิจกรรมในตำแหน่ง Project Manager
  • ชมรม Dev Club ของคณะ ได้ลองไปเก็บ requirements จากลูกค้าเอากลับมาเขียนเป็น Backlog ในตำแหน่ง Product Owner

พอเริ่มทำไปทำมาก็รู้สึกสนุก ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะและการทำงาน จนค้นมาเจอ Product Manager เนี่ยแหละ ซึ่งการทำกิจกรรมนอกห้องเรียนเหล่านี้นอกจากจะทำให้ได้ค้นพบสิ่งที่ชอบแล้ว ยังเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ช่วยขัดเกลาทักษะและความคิดของเราเองด้วย สำหรับถิงถิงเองก็คิดว่า skills ต่าง ๆ ที่ได้จากการลงมือทำนั้นสำคัญมากแถมเป็นวิธีการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งมากที่สุดด้วย

สำหรับเพื่อนหลายคน อาจสงสัยว่าโอกาสในการฝึกงานเกี่ยวกับ Product Manager หาค่อนข้างยาก จะสามารถหาจากไหนได้บ้าง คำตอบคือ เราไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ตำแหน่งนี้โดยตรงก็ได้ค่ะ

อย่างถิงถิงเองก็ได้ลองเป็น Project Manager ดูก่อน ซึ่งก็ได้เรียนรู้วิธีบริหารงานและสื่อสารกับทีมรวมถึง stakeholders และได้รู้ insight ของประเภทธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Project ที่ทำอยู่ หรือตอนที่เป็น Product Owner ก็ได้ทำหลายอย่างที่ทับซ้อนกับงาน Product Manager ด้วยเช่นกัน

สิ่งสำคัญคืออยากให้คว้าโอกาสที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของเราไว้ก่อนค่ะ จะได้สะสมประสบการณ์และได้เรียนรู้เติบโตไปด้วย ต่อให้ไม่ตรงสาย หรือตรงแค่บางส่วน อย่างน้อยเราก็ได้ skill เพิ่ม ได้ลองผิดลองถูกดู และความจริงแล้วโอกาสส่วนใหญ่ที่เราก็จะได้มาเพิ่มจากกลุ่มคนเหล่านี้ที่เราทำงานด้วย ที่เขาเชิญชวนหรือบอกต่อมาว่ามีงานหรือกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติมอีกบาง เหมือนเป็น connection แบบหนึ่ง










และหากคุณชอบคอนเทนต์นี้ และอยากฟังเรื่องราวจาก Product People คนอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่าลืมกดติดตาม PM Corner ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ได้เลย 

Twitter
LinkedIn
Facebook
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
SUBSCRIBE FOR UPDATE

Join our community and start growing together