การเขียน Resume เป็นอะไรที่หลายคนอาจมองว่าง่าย เพราะปัจจุบันเรามี Template มากมายให้เลือกใช้ หรือ Build it from website หรือ Platform ต่างๆ ได้
แต่อย่างไรก็ตามการ Cross-check หรือการมี Guidelines ในการเขียน Resume นั้นเป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้าม จึงเป็นที่มาของบทความนี้ ซึ่งรวบรวมจากประสบการณ์และการสังเคราะห์ในฐานะ Recruiter คนหนึ่งที่อยากให้ผู้สมัครในสายงาน Product Manager, Project Manager หรือสายอื่นๆในสายงาน IT มีความมั่นใจในการเขียนและเรียบเรียง resume มากขึ้น ไว้ให้เพื่อนๆ มี Tools ช่วยรีวิวกันอีกชั้นหนึ่งค่ะ

Table of Contents
องค์ประกอบหลักและส่วนเสริมที่เราควรคำนึงถึง
อันดับแรก ลองมาดูส่วนประกอบหลักๆ ของ Resume ที่คนส่วนใหญ่มีกัน!
- ประวัติส่วนตัว (Personal Information): เขียนเท่าที่จำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร อีเมล์ ที่อยู่ ส่วนข้อมูลบางอย่าง เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก ประวัติการฉีดวัคซีนต้านโควิด (มีคนเคยใส่มาจริงๆนะ 😊) ไม่ต้องใส่มาก็ได้ค่ะ
- ประวัติการศึกษา (Education): ไม่จำเป็นต้องเขียนถึงโรงเรียนอนุบาล
- Career Summary: ถ้าทำงานมาบ้างแล้ว อยากให้มี Career Summary หรือ Highlighted Working experiences/ Tools/ Skills เช่น 5+ years product manager in financial product
- ประสบการณ์การทำงาน (Work Experience): ระบุตำแหน่ง บริษัท ระยะเวลา และรายละเอียดงานที่เคยทำในแต่ละที่
- ทักษะและความสามารถพิเศษ (Skills): แนบลิงค์ portfolio หรือ GitHub แทนได้
- รางวัลแห่งความสำเร็จต่างๆ (Honors/ Awards): ไม่จำเป็นไม่ต้องแนบรูปหรือประกาศนียบัตร ถ้าอยากแนบให้ใส่ใน portfolio แทน
เสริมเพิ่มเติม…
- ปกติแล้ว ถ้าคุณสมบัติเราตรงกับตำแหน่งงานที่สมัคร มีโอกาสที่ Recruiter จะพยายามติดต่อผู้สมัครคนนั้นอยู่แล้ว และจะมีโอกาสได้คุยเรื่องเงินเดือนกัน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องระบุเงินเดือนลงไป
- ควรให้ความสนใจกับ Detail อื่นๆที่จำเป็นต้องเขียนหรือระบุลงไปมากกว่า เช่น เบอร์โทรศัพท์ (บางคนลืม), เขียน Summary แนะนำประสบการณ์โดยรวม หรือสิ่งที่อยาก Highlight หรือ Skills ของเราที่เหมาะกับตำแหน่งงานที่เราสมัคร เป็นต้น
Recruiter’s insight
โดยปกติแล้ว resume จะถูก forward ไปทาง Line Manager หรือ Hiring Manager ด้วย และไม่ใช่ Line Manager and Hiring Manager ทุกคนจะทราบเงินเดือนได้ ในบางครั้งที่ Recruiter ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้ ก็อาจจะทำให้ Resume ของเราถูกส่งไปหาคนพิจารณาได้ช้าลง หรืออาจจะข้ามสิทธิ์ให้ผู้สมัครคนอื่นที่มีคุณสมบัติตรงเหมือนกัน แต่ไม่ได้เขียนเงินเดือนลงไป
Tips เพิ่มเติมจากผู้เขียน
- Recruiter สามารถคาดการณ์เงินเดือนได้จากชื่อตำแหน่ง บริษัท (Industry) จำนวนปีประสบการณ์ทั้งหมดและจากที่ทำงานแต่ละที่ได้ ดังนั้นอย่ามองข้ามการเขียน Resume แบบ Sample Basic Requirements
โครงสร้างหรือ Template ของ Resume ที่เราเลือกใช้
Project Manager, Product Owner หรือ Product Manager มีวิธีการเขียน Resume เหมือนตำแหน่งอื่นๆ และเราก็สามารถหาวิธีการเขียน หรือหา Template จาก Google หรือแม้กระทั่ง Generate จาก AI ได้
ซึ่งคำถามลำดับถัดมาคือ แล้วจะทำอย่างไรให้ Resume ของเราเตะตา Recruiter หรืออยู่เหนือกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ?
มาดู Tips จากผู้เขียนในฐานะ Recruiter คนหนึ่งกัน
#1 – Keywords are the key success factor
Recruiter ไม่ได้อ่านทุกบรรทัด ไม่ได้อ่านทุกคำที่เราเขียน
ดังนั้น Keywords ที่เขียนได้สอดคล้องกับคุณสมบัติตามตำแหน่งงานที่เราสมัคร ส่งผลต่อการ Search ที่ง่ายชึ้น หรือเตะตา Recruiter เมื่อกวาดสายตาอ่านแบบเร็วๆ ได้มากขึ้น
#2 – Do not too much fancy
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ Tool ใหม่ๆ ทำให้เราเขียน Resume ได้อลังการงานสร้างได้ง่ายขึ้น ใช้คำศัพท์สวยหรูได้มากขึ้น แต่งรูปหรือดีไซน์ Template ได้สวยงามมากขึ้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตามสิ่งที่ Recruiter ให้ความสนใจคือ ผู้สมัครมีคุณสมบัติตรงกับที่มองหาหรือไม่ และ ความสามารถหรือคุณสมบัติของเราที่ระบุมาใน resume ดูแล้วสมจริง (หรือสัมภาษณ์แล้วไม่พบว่าเกินจริง) หรือไม่
#3 – แต่งคำหรือประโยคด้วยตนเองเป็นเรื่องที่ดี
เพราะทำให้เราจำได้ว่าเราเขียนอะไรลงไปใน Resume นั่นเอง
เพราะคำถามที่ Recruiter หรือ Line Manager/ Hiring Manager/ Interviewers ส่วนใหญ่ถามผู้สมัคร คำถามก็มาจากสิ่งที่เราเขียนหรือระบุลงไปใน Resume
ดังนั้นผู้สมัครที่เรียบเรียงหรือเขียนด้วยตัวเองมีข้อได้เปรียบตรงที่จำได้ว่าตัวเองเขียนอะไรลงไปใน Resume และไม่ต้องกังวลว่าเรื่องความเรียบง่ายของการใช้ศัพท์หรือสำนวน เพียงแต่เขียนให้อ่านได้ง่าย มีคีย์เวิร์ด เขียนถูกต้องตามหลักการภาษาที่เราเลือกเขียนนั่นก็เพียงพอแล้ว
#4 – คัดลอกมาจาก Templete ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ต้องทบทวน
ถ้าเราคัดลอก Job Description มาจาก Internet (Template) หรือ Generate จาก AI มาก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เราสามารถใช้ Tools หรือ Platforms ต่างๆให้เกิดประโยชน์ได้
เพียงแต่ว่าควรมีการอ่านซ้ำอีกหนึ่งรอบว่าตรงกับงานที่เราเคยทำ หรือเป็นคุณสมบัติของเราจริงๆไหม หรือมีการใช้ศัพท์ที่ Advance มากเกินไปหรือเปล่า เพราะอาจจะทำให้ผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็น Recruiter/ Line Manager/ Hiring Manager/ Interviewers เกิดความสับสนได้
#5 – Keep it simple
สายงาน Project Manager, Product Owner หรือ Product Manager อย่ามองข้ามเรื่องชื่อบริษัท ระยะเวลาการทำงานแต่ละที่ ตำแหน่งงาน รวมถึง Project หรือ Product ที่เราเคยทำมาก่อน
เพราะสำคัญมากที่จะทำให้ recruiter ทราบได้ว่าเราทำอะไรมาก่อน และพอเดาทางได้ว่าสิ่งที่เราทำมาก่อนเหมาะสมหรือสอดคล้องกับที่บริษัทกำลังมองหาอยู่ไหม และอย่าลืมว่าเอาที่ทำงานปัจจุบันไว้เป็นอันดับ 1 หรืออยู่บนสุดเสมอ
#6 – ต้องบอกไหม ทำไมถึงลาออก?
ไม่จำเป็นต้องเขียนเหตุผลว่าทำไมเราถึงลาออกจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่งใน Resume
ถ้าอยากเขียนอะไรเพิ่มเติมแนะนำว่า ควรเขียนถึงผู้ร่วมทีม ไซส์ทีม ตำแหน่งเพื่อนร่วมงานที่เราเคยทำงานด้วย เช่น (Report to XXX Director, 20 team members) เพราะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านการคาดคะเนเรื่องบทบาทของผู้สมัครในการทำงานแต่ละที่ได้ดีประมาณหนึ่ง
Recruiter’s insight
ตัวอย่าง จาก https://enhancv.com/
ผู้สมัครส่วนใหญ่เข้าใจดีอยู่แล้วว่า CV กับ Resume ต่างกันอย่างไร (ถ้าเราเรียกทั้งสองอย่างสลับกัน หรือเรียกเหมือนกัน หรือเรียก CV/Resume พร้อมๆกัน ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะสื่อความหมายไปทางเดียวกัน หลายคนเข้าใจตรงกัน) ซึ่งถ้าเรายังสบสนหรือจำแนกไม่ได้ เราสามารถ search เพิ่มเติมได้
ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอกเพิ่มเติม คือ
บทความนี้ใช้คำว่า Resume เพียงคำเดียวมากกว่าที่จะเป็น CV/ Resume เพราะ Resume นิยมเพียง 1 หน้า A4 และไม่ควรเกิน 2 หน้า โดยคัดเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นในการให้ recruiter หรือผู้ที่อ่าน resume เห็นภาพรวมของการทำงานของเราเป็นหลัก
เราสามารถเขียน CV และ Portfolio ร่วมกันได้ เพราะ CV คือ สิ่งที่เราเขียนสิ่งที่เราทำมาทั้งหมด เรียนมาทั้งหมด งานพิเศษทั้งหมด อะไรที่เป็นความสามารถเราทั้งหมด ได้อย่างละเอียด และสามารถเขียนเกิน 2 หน้าได้
ดังนั้นถ้าเราอยากนำเสนอผลงานของเราแบบ Full Profile และรวบรวมผลงานที่เราเคยทำ เราสามารถแนบ CV และ Portfolio ที่เป็น Soft File ผ่าน Google link, GitHub, Canva เป็นต้น ทำให้เราไม่ต้องแนบไฟล์หลายๆไฟล์ส่งให้ Recruiter
การมี Portfolio เหมาะสมกับบางตำแหน่งงานที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง หรือคนที่ข้ามสายงานจากตำแหน่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงมาก่อนแต่เคยศึกษาหรือเรียนเพิ่มเติมมา หรือนักศึกษา/นิสิตที่เรียนจบใหม่
นอกจากนี้…
Cover letter ยังสร้างความโดดเด่นให้ผู้สมัครได้ แต่ไม่ควร copy template มาจาก Internet/AI เพราะ Cover Letter เป็นการเขียนเพื่อเชื่อมโยงว่าเราเหมาะกับตำแหน่งงานที่เราสมัครอย่างไร และเราเข้าใจธุรกิจของบริษัทที่เราสมัครไปอย่างไร และถ้าเราไป Copy มาทั้งหมด เท่ากับว่าเราไม่ได้เขียนอะไรที่เป็น Specific จริงๆ
เกี่ยวกับผู้เขียน
- ชื่อ เงาะ งานหลักคือ Tech Recruiter งานรองมีทำบ้าง และงานอดิเรกมีเวลาให้เสมอ เช่น ฝึกหัดเขียนบทความ วาดรูป cooking
- เขียนบทความนี้มา เพราะอยากให้ชาว PM Corner ได้มี Knowledge source ด้านการสมัครงาน การเตรียมการสัมภาษณ์ หรือด้าน Career จากมุมมองของ Recruiter ไว้อ่านบ้างค่ะ 😊
- Tips & guideline ของการเขียน resume ยังมีอีกมากมาย สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนหรือแนะนำหัวข้ออื่นๆที่อยากให้เขียนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.linkedin.com/in/wannapaw19/ หรือ wkachorn@gmail.com นะคะ
และหากคุณชอบคอนเทนต์นี้ และอยากฟังเรื่องราวจาก Product People คนอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่าลืมกดติดตาม PM Corner ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้ได้เลย
- Facebook Page: PM Corner Thailand
- Website: PM Corner
- Youtube: https://www.youtube.com/@pmcornerthailand (สำหรับรับชม live ย้อนหลัง)